ในยุคที่ “คอนเทนต์คือราชา” (Content is King) การมีผู้ช่วยเขียนบทความ, คิดหัวข้อ, หรือแม้แต่ช่วยตอบคำถามบนเว็บไซต์ของคุณตลอด 24 ชั่วโมง คือความฝันของคนทำเว็บทุกคน และวันนี้ ฝันนั้นเป็นจริงได้ง่ายกว่าที่คิด ด้วยการผนึกกำลังระหว่าง WordPress (ระบบจัดการเว็บที่ทรงพลังที่สุด) และ Gemini API (โมเดล AI ที่ฉลาดล้ำจาก Google)
ลืมการ Copy-Paste บทความจากหน้าแชท AI ไปลง WordPress แบบเดิมๆ ไปได้เลย บทความนี้จะแสดงวิธี “ฝัง” สมองของ Gemini API เข้าไปในเว็บไซต์ของคุณโดยตรง!
🤔 ทำไมต้องเชื่อม Gemini API กับ WordPress?
- สร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ: สั่งให้ Gemini เขียนร่างบทความ, คิดหัวข้อบล็อก, หรือเขียนสรุปบทความ ลงในหน้า Editor ของคุณได้ทันที
- สร้าง Chatbot อัจฉริยะ: สร้างบอทผู้ช่วยที่ตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ โดยใช้ความสามารถในการให้เหตุผลของ Gemini
- แปลภาษาและเกลาสำนวน: ให้ AI ช่วยตรวจทานและแก้ไขบทความของคุณก่อนเผยแพร่
- ประหยัดเวลา: ลดเวลาการทำงานซ้ำซาก และเพิ่มเวลาให้กับงานสร้างสรรค์
⚠️ สิ่งที่คุณต้องมีก่อนเริ่ม
- เว็บไซต์ WordPress: (แน่นอน!) คุณต้องมีสิทธิ์ในการติดตั้งปลั๊กอิน (Administrator)
- Gemini API Key: นี่คือ “กุญแจ” สำคัญที่สุด
- วิธีรับ: ไปที่ Google AI Studio (ค้นหา
Google AI Studioบน Google) - ล็อกอินด้วยบัญชี Google ของคุณ
- คลิก “Get API Key” และสร้างคีย์ใหม่
- สำคัญมาก: คัดลอกและเก็บ API Key นี้ไว้ในที่ปลอดภัย ห้ามบอกใคร!
- วิธีรับ: ไปที่ Google AI Studio (ค้นหา
🌟 วิธีที่ 1: ง่ายที่สุดสำหรับทุกคน (ใช้ปลั๊กอิน)
นี่คือวิธีที่แนะนำสำหรับผู้ใช้ 90% เพราะ ปลอดภัย, ง่าย, และไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว เราจะใช้ปลั๊กอินยอดนิยมที่รองรับ AI หลายค่าย
ปลั๊กอินที่แนะนำ: AI Engine (หรือปลั๊กอิน AI อื่นๆ ที่รองรับ Google Gemini)
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งปลั๊กอิน
- ไปที่หน้า Plugins (ปลั๊กอิน) > Add New (เพิ่มปลั๊กอินใหม่)
- ค้นหาคำว่า “AI Engine”
- คลิก Install Now (ติดตั้งเดี๋ยวนี้) และ Activate (เปิดใช้งาน)
ขั้นตอนที่ S 2: ตั้งค่า API Key
- ไปที่เมนู “Meow Apps” (รูปแมว) ในแถบเมนูด้านซ้าย > คลิก “AI Engine”
- ไปที่แท็บ “Settings” (ตั้งค่า)
- มองหาแท็บ “AI Models” หรือ “Google”
- เลือก “Google (Gemini)”
- นำ Gemini API Key ที่คุณคัดลอกไว้ มาวางในช่อง “API Key”
- เลือกโมเดล (เช่น
gemini-1.5-pro-latestหรือgemini-1.5-flash-latest) - กด Save Changes
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มใช้งาน!
หลังจากบันทึกค่า คุณสามารถ:
- สร้างคอนเทนต์: ไปที่ Tools (เครื่องมือ) > Content Generator ใน AI Engine แล้วเริ่มสั่งงาน Gemini ได้เลย
- Chatbot: ตั้งค่า Chatbot ให้ใช้ Gemini เป็นสมองกลในการตอบคำถามหน้าเว็บ
- ในหน้าเขียนบทความ (Editor): จะมีไอคอน AI Engine ปรากฏขึ้นมา ให้คุณสั่งงาน AI เพื่อช่วยเขียนหรือสรุปเนื้อหาได้ทันที
🐍 วิธีที่ 2: สำหรับขั้นสูง (เขียนโค้ดเองผ่าน functions.php)
คำเตือน: วิธีนี้สำหรับผู้ใช้ขั้นสูงที่เข้าใจ PHP และรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ การแก้ไขไฟล์ functions.php ผิดพลาดอาจทำให้เว็บล่มได้ (แนะนำให้ทำใน Child Theme)
วิธีนี้คือการสร้าง Shortcode ของคุณเอง เพื่อเรียกใช้ Gemini API ได้จากทุกที่ในเว็บ
ขั้นตอนที่ 1: ซ่อน API Key ใน wp-config.php (เพื่อความปลอดภัย)
เปิดไฟล์ wp-config.php (ที่อยู่เดียวกับ wp-content) แล้วเพิ่มบรรทัดนี้ลงไปก่อน /* That's all, stop editing! */:
PHP
define('MY_GEMINI_API_KEY', 'PASTE_YOUR_API_KEY_HERE');
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มโค้ดใน functions.php
ไปที่ Appearance (รูปแบบเว็บ) > Theme File Editor (แก้ไขไฟล์ธีม) > เลือก functions.php แล้วเพิ่มโค้ดนี้ต่อท้ายไฟล์:
PHP
function call_gemini_api( $prompt_text ) {
// ดึง API Key ที่ซ่อนไว้
if ( !defined('MY_GEMINI_API_KEY') ) {
return "Error: API Key is not defined.";
}
$api_key = MY_GEMINI_API_KEY;
// URL Endpoint ของ Gemini 1.5 Flash (หรือรุ่นอื่นที่ต้องการ)
$api_url = 'https://generativelanguage.googleapis.com/v1beta/models/gemini-1.5-flash-latest:generateContent?key=' . $api_key;
// ข้อมูลที่จะส่ง (Payload)
$body_data = [
'contents' => [
[
'parts' => [
['text' => $prompt_text]
]
]
]
];
// ใช้ WordPress HTTP API เพื่อส่งคำขอ
$response = wp_remote_post( $api_url, [
'method' => 'POST',
'headers' => ['Content-Type' => 'application/json'],
'body' => json_encode($body_data),
'timeout' => 30 // รอ 30 วินาที
]);
// ตรวจสอบว่าสำเร็จหรือไม่
if ( is_wp_error($response) ) {
return "Error: " . $response->get_error_message();
}
// ดึงผลลัพธ์
$response_body = wp_remote_retrieve_body($response);
$data = json_decode($response_body, true);
// คืนค่าข้อความที่ AI สร้าง
if ( isset($data['candidates'][0]['content']['parts'][0]['text']) ) {
return $data['candidates'][0]['content']['parts'][0]['text'];
} else {
// คืนค่า Error ถ้า Gemini ไม่ตอบกลับ
return "Error: " . $response_body;
}
}
// สร้าง Shortcode ชื่อ [gemini]
function gemini_shortcode_handler( $atts ) {
// ดึง "prompt" จาก shortcode
$a = shortcode_atts( [
'prompt' => 'Hello, world!' // ค่าเริ่มต้น
], $atts );
$prompt = sanitize_text_field( $a['prompt'] );
// เรียกใช้ฟังก์ชัน API และคืนค่าผลลัพธ์
return call_gemini_api( $prompt );
}
add_shortcode( 'gemini', 'gemini_shortcode_handler' );
ขั้นตอนที่ 3: วิธีใช้งาน Shortcode
ตอนนี้คุณสามารถเรียกใช้ Gemini จากหน้าเขียนบทความ (Post Editor) ได้ง่ายๆ เพียงพิมพ์ Shortcode นี้:
[gemini prompt="ช่วยเขียนบทกลอนสั้นๆ เกี่ยวกับ WordPress"]
เมื่อคุณกดเผยแพร่บทความ ส่วนนี้จะถูกแทนที่ด้วยคำตอบจาก Gemini ทันที!
บทสรุป
การเชื่อม Gemini API เข้ากับ WordPress คือการ “อัปเกรด” เว็บไซต์ของคุณจากระบบจัดการเนื้อหาธรรมดา ให้กลายเป็น “แพลตฟอร์มสร้างสรรค์อัจฉริยะ”
- สำหรับมือใหม่: เริ่มต้นด้วยปลั๊กอิน AI Engine คือวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด
- สำหรับนักพัฒนา: การสร้าง Shortcode เอง เปิดโอกาสให้คุณปรับแต่งการทำงานได้ลึกซึ้งอย่างไม่จำกัด
ยินดีต้อนรับสู่ยุคใหม่ของ WordPress ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ค่ะ!



